วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ภาษาอังกฤษดี โอกาสดี (กว่า)

"ภาษาอังกฤษดี โอกาสดี (กว่า)"



คุณคิดว่าพนักงาน Call Center ที่คอยตอบคำถามเกี่ยวกับการใช้งานสัญญาณโทรศัพท์ของค่ายต่างๆ ที่พูดภาษาอังกฤษได้ จะได้ค่าภาษาเพิ่มจากเงินเดือนอย่างน้อยเท่าไหร่????

พอดีวันนี้บังเอิญไปเจอประกาศรับสมัครงาน Call Center ของมือถือค่ายหนึ่ง ฐานเงินเดือนคือ 15,000++ (เครื่องหมายบวก 2 อันนะจ๊ะ ธรรมดาซะที่ไหน) มีค่าเดินทางให้วันละ 170 ค่ากะวันละ 100 และสวัสดิการน่าสนใจอีกเพียบ

ที่เพิ่มเติมและน่าสนใจมากๆคือ ค่าภาษาเพิ่มอีกเดือนละ 5,000 บาทจากฐานเงินเดือนปกติ สำหรับคนที่ใช้งานภาษาอังกฤษได้ดี (โทอิก 650 ขึ้นไป) งานที่ทำใช้ทักษะ ความรู้และความสามารถไม่ต่างจากการให้บริการด้วยภาษาไทยเลย

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่...
1. จะทำงานเป็น Call Center ภาคภาษาอังกฤษได้ ต้องมีโทอิก 650 ขึ้นไป (ไม่ใช่เล่นๆนะจ๊ะ)
2. ภาษาอังกฤษเพิ่มมูลค่าให้กับคุณได้ งานเดียวกัน สื่อด้วยภาษาที่ต่างกัน ผลตอบแทนก็ต่างกันด้วย
นี่ขนาดให้บริการอยู่เบื้องหลังยังได้ 5,000 ถ้าให้บริการประจำร้าน ที่ต้องเจอหน้าลูกค้าต่างชาติด้วย อยากรู้จริงๆว่าได้เพิ่มอีกเท่าไหร่??
3. ลูกค้าต่างชาติในที่นี้ไม่ได้หมายถึงฝรั่งอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้รอบๆบ้านเราไม่ว่าจะ พม่า เขมร เวียดนาม ต่างก็หลั่งไหลกันเข้ามา ทั้งมาทำธุรกิจ ท่องเที่ยวและใช้บริการต่างๆที่เราถือได้ว่าค่อนข้างพัฒนากว่า เช่น การศึกษา การแพทย์ หรือแม้แต่แฟชั่น ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของบ้านเราเป็นที่นิยมในหมู่เพื่อนบ้านสุดๆ

อีกตั้งหลายเดือนกว่า AEC จะเปิด ...ถ้า AEC เปิดเต็มตัวแล้ว ต่อให้ของคุณดีแค่ไหน งานคุณเจ๋งแค่ไหน จะมีประโยชน์อะไร ถ้าคุณบอกเล่าใครไม่ได้

ถ้าคุณได้ภาษาอังกฤษ คุณคิดว่ามีโอกาสอะไรรอคุณอยู่บ้าง???

ให้ภาษาอังกฤษ...เปลี่ยนชีวิตคุณ
โทร: 089-540-9058
‪#‎ภาษาอังกฤษ‬ ‪#‎แจ้งวัฒนะ‬

วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558

" The ออกเสียงว่า ...."



" The ออกเสียงว่า ...."
The ออกเสียงว่า เดอะ หรือ ดิ ก็ได้ คำถามคือ แล้วเมื่อไหร่ เดอะ และเมื่อไหร่ ดิ ????
สมัยเรียนเราจะเข้าใจว่า ถ้า The นำหน้าสระ (a e i o u) จะต้องออกเสียงคำนั้นว่า ดิ ...ถูก..แต่ไม่เสมอไป จำง่ายๆว่า ถ้าคำไหนออกเสียงด้วยตัว " อ " เราถึงจะออกเสียงว่า "ดิ" ไม่ต้องสนใจว่าคำนั้นจะขึ้นต้นด้วยสระหรือพยัญชนะ เช่น
The hour (ดิ อาวส์) ขึ้นต้นด้วย h แต่ออกเสียง อ ดังนั้นออกเสียง "ดิ"
The University (เดอะ ยูนิเวอร์ซิที) ขึ้นต้น u ออกเสียง ย ดังนั้นออกเสียง "เดอะ"
ถามว่าฝรั่งซีเรียสไหม ตอบเลยว่า ม่ายยยยย ถ้าเสียงไม่ได้เพี้ยนจนความหมายผิด ฝรั่งไม่งงจ้า ฝรั่งโอเค
ให้ภาษาอังกฤษ...เปลี่ยนชีวิตคุณ
โทร:089-5409058

"ใช้ หู เรียน"




คนที่หูหนวก จะไม่สามารถพูดได้ชัด ทั้งๆที่อวัยวะเกี่ยวกับการพูดสมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง ทั้งนี้เนื่องจากภาษาเป็นเรื่องที่เริ่มต้นที่ หู หรือ การฟัง เป็นอันดับแรก เราจะไม่สามารถร้องเพลงได้เหมือนต้นฉบับ ถ้าไม่เคยฟังเพลงนั้นมาก่อน แม้จะมีเนื้อร้องอยู่ในมือก็ตาม
ถ้าอยากเก่งภาษา ไม่ใช่แต่เฉพาะภาษาอังกฤษ ให้เลิกเรียนด้วยตาแล้วใช้หูแทน ...ถ้าฝึกพูดจากคำอ่านในตำรา ก็คงเป็นอย่างที่ฝรั่งบอก ว่าคนไทยพูดภาษาอังกฤษเหมือนอ่านหนังสือให้ฝรั่งฟัง แถมยังเป็นการอ่านแบบผิดๆ ถูกๆ อีกต่างหาก เพราะสำเนียงจะเป็นไปตามความสามารถในการอ่านภาษาไทยของแต่ละคนเลย เรียกได้ว่าสร้างสำเนียงส่วนตัวกันไปตามแต่ความชอบ
ตัวอย่างง่ายๆ คำว่า CAR อ่านว่า คาร์ แปลว่า รถยนต์ ถ้าอ่านตามตัวหนังสือ คนไทยจะออกเสียงคำนี้ว่า "คา" แต่จริงๆแล้วฝรั่งจะออกเสียงคำนี้แบบมี " ร" ม้วนลิ้นเพิ่มเข้าไปด้วย อยากรู้ว่าเป็นยังไง ต้องหาเสียงมาฟัง เพราะตัวหนังสือไม่สามารถอธิบายได้
อยากพูดให้ได้ ก็ต้องฟังให้มากพอ เพราะ input =output ถ้า input ตำรา ก็จะพูดได้แบบหนังสือ แต่ถ้า input เสียง ก็จะพูดได้แบบมีสำเนียง และเป็นธรรมชาติ
ให้ภาษาอังกฤษ ...เปลี่นชีวิตคุณ